เรื่องน่ารู้
- แพร์รี่เป็นสัตว์ที่ขี้ระแว ง มีความระวังภัยสูง ไวต่อการเปลี่ยนแปลง อึด
อดทน สามารถปรับตัวเข้ากับถิ ่นที่อยู่ได้ดี
- การหากินจะไม่ออกไปไหนไกลบ้ าน เพราะแพร์รี่เป็นสัตว์ที่ถู กล่า
อยู่ในลำดับท้ายๆของห่วงโซ่ อาหาร ดังนั้นเค้าจะติดบ้าน
จะรู้สึกปลอดภัยที่สุดเมื่อ อยู่บ้าน
การพาออกข้างนอกโดยไม่ให้กา รดูแลอย่างดีเท่าที่ควร อาจทำให้เกิดความหวาดกลัว
วิตก เครียด ส่งผลให้ถ่ายเหลว หรือช็อคจนเสียชีวิตได้
- แพร์รี่ด็อกเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับ “กระรอก” การเลี้ยงดูเหมือน “กระต่าย” นิสัยเอาแต่ใจ ขี้อ้อน มีความเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระ ขี้อ้อนเหมือน “แมว” ซื่อสัตว์ รักเจ้าของ รักครอบครัวเหมือน “สุนัข”
-พันธุ์ที่นำมาเป็นสัตว์เลี้ยง คือ Black-tailed ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ “ไม่จำศีล”
- ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่พบว่าสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จ จึงเป็นสัตว์นำเข้าเท่านั้น เพราะการเพาะพันธุ์เป็นเรื่องยากมากเมื่อนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย
- สิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงส่วนม ากมักลืมทำความเข้าใจ
คือเค้าถูกจับมาจากแหล่งธรร มชาติ ดังนั้นอาการดุ กัด หวาดกลัว
ก้าวร้าวในระยะแรกนั้นนับเป ็นเรื่องธรรมดามากที่สามารถ พบได้
แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีข ึ้นในภายหลังหากได้รับความร ักและการดูแลเอาใจใส่อย่างส ม่ำเสมอ
- การให้คนแปลกหน้า จับ อุ้ม มีความเสี่ยงต่อการโดนกัด ซึ่งสามารถสร้างความเจ็บปวด ได้อย่างมาก แผลที่โดนกัด มักมีอาการบวมแดง อักเสบ
หายช้า เนื่องจากแบคทรีเรียที่สะสม อยู่บริเวณขนในช่องปาก
(ขนในปากทำหน้าที่กรองสิ่งส กปรกและเศษฝุ่นหรือเศษอาหาร ต่างๆ)
- แพร์รี่สามารถเป็นสัตว์เลี้ ยงที่ดีของผู้เลี้ยงได้
แต่ถ้าผู้เลี้ยงอยากมีสัตว์ เลี้ยงสักหนึ่งชนิด ที่คล้ายสุนัขหรือแมว
แพร์รี่ด็อกอาจไม่ใช่คำตอบท ี่ดีที่สุด
(..กว่าสุนัขและแมวจะนำมาเป ็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้
ต้องผ่านการพัฒนาสายพันธุ์ม าเป็นสิบๆปี)
- การเลี้ยงแพร์รี่ด็อกเป็นคว ามท้าทายอย่างไม่น่าเชื่อ
ผู้เลี้ยงต้องมีความอดทนและ พยายามเข้าใจในธรรมชาติของเ ค้าด้วย
โดยแต่ละตัวมีลักษณะนิสัยเฉพาะที่แตกต่างกัน
โดยพัฒนาการของแพร์รี่ด็อกน ั้นจะเท่ากับเด็กเพียง 2 ขวบ
และจะไม่โตไปกว่านี้
ดังนั้นลองประเมิณความสามาร ถของผู้เลี้ยงถึงการต้องเลี ้ยงเด็กอายุ
2 ขวบที่มีความต้องการมากกว่า เด็ก 2 ขวบทั่วๆไป ไปนานอีก 10 ปี..
- แพร์รี่ด็อก(ส่วนมาก) จะมี “ประตูเวลา” กล่าวคือ เมื่ออายุ 2 ขวบแล้วจะปิดกั้นความรู้สึก จากคนแปลกหน้า เขาจะยอมรับ
รักและผูกพันเฉพาะผู้เลี้ยงห รือคนในครอบครัวเท่านั้น อาจจะหวงบ้านมากขึ้น
กับคนอื่นที่ไม่คุ้นเคย ถ้าไม่กัด หรือไม่แสดงอาการก้าวร้าว
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรักหร ือเชื่อง
เขาจะปกป้องคนในครอบครัว
ดังนั้นอายุของแพร์รี่ด็อกท ี่จะนำมาเลี้ยง
ไม่ควรเกินไปกว่า 2 ปี(เป็นช่วงอายุโดยประมาณ)
..ในทางกลับกัน หากผู้เลี้ยงมีแพร์รี่ด็อกอ ายุ 2 ปีขึ้นไป และกำลังต้องการหาบ้านใหม่. .
มันจะเป็นเรื่องเศร้าแค่ไหน
เพราะเขาได้ตั้งใจแล้วว่าจะ รักและปกป้องคุณไปตลอดชีวิ ตที่เหลืออยู่..
..ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลี้ยงโปรดคำนึ งถึงด้วยว่า
“แพร์ด็อกต้องการครอบครัวที ่พร้อมจะรักและผูกพันในระยะ ยาว”
- แพร์รี่ด็อกเป็นสัตว์สัตว์สังคมอย่างมาก การนำมาเลี้ยง ควรเลี้ยงมากกว่า 1 ตัว และแนะนำให้เลี้ยงเพศเดียวกัน
- การหากินจะไม่ออกไปไหนไกลบ้
- แพร์รี่ด็อกเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับ “กระรอก” การเลี้ยงดูเหมือน “กระต่าย” นิสัยเอาแต่ใจ ขี้อ้อน มีความเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระ ขี้อ้อนเหมือน “แมว” ซื่อสัตว์ รักเจ้าของ รักครอบครัวเหมือน “สุนัข”
-พันธุ์ที่นำมาเป็นสัตว์เลี้ยง คือ Black-tailed ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ “ไม่จำศีล”
- ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่พบว่าสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จ จึงเป็นสัตว์นำเข้าเท่านั้น เพราะการเพาะพันธุ์เป็นเรื่องยากมากเมื่อนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย
- สิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงส่วนม
- การให้คนแปลกหน้า จับ อุ้ม มีความเสี่ยงต่อการโดนกัด ซึ่งสามารถสร้างความเจ็บปวด
- แพร์รี่สามารถเป็นสัตว์เลี้
- การเลี้ยงแพร์รี่ด็อกเป็นคว
ดังนั้นลองประเมิณความสามาร
- แพร์รี่ด็อก(ส่วนมาก) จะมี “ประตูเวลา” กล่าวคือ เมื่ออายุ 2 ขวบแล้วจะปิดกั้นความรู้สึก
ดังนั้นอายุของแพร์รี่ด็อกท
..ในทางกลับกัน หากผู้เลี้ยงมีแพร์รี่ด็อกอ
..ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลี้ยงโปรดคำนึ
- แพร์รี่ด็อกเป็นสัตว์สัตว์สังคมอย่างมาก การนำมาเลี้ยง ควรเลี้ยงมากกว่า 1 ตัว และแนะนำให้เลี้ยงเพศเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น