วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

เรื่องน่ารู้

เรื่องน่ารู้

- แพร์รี่เป็นสัตว์ที่ขี้ระแวง มีความระวังภัยสูง ไวต่อการเปลี่ยนแปลง อึด อดทน สามารถปรับตัวเข้ากับถิ่นที่อยู่ได้ดี

- การหากินจะไม่ออกไปไหนไกลบ้าน เพราะแพร์รี่เป็นสัตว์ที่ถูกล่า อยู่ในลำดับท้ายๆของห่วงโซ่อาหาร ดังนั้นเค้าจะติดบ้าน จะรู้สึกปลอดภัยที่สุดเมื่ออยู่บ้าน การพาออกข้างนอกโดยไม่ให้การดูแลอย่างดีเท่าที่ควร อาจทำให้เกิดความหวาดกลัว วิตก เครียด ส่งผลให้ถ่ายเหลว หรือช็อคจนเสียชีวิตได้

- แพร์รี่ด็อกเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับ “กระรอก”  การเลี้ยงดูเหมือน “กระต่าย”  นิสัยเอาแต่ใจ ขี้อ้อน มีความเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระ ขี้อ้อนเหมือน “แมว”  ซื่อสัตว์ รักเจ้าของ รักครอบครัวเหมือน “สุนัข”

-พันธุ์ที่นำมาเป็นสัตว์เลี้ยง คือ Black-tailed ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ “ไม่จำศีล”

- ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่พบว่าสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จ จึงเป็นสัตว์นำเข้าเท่านั้น เพราะการเพาะพันธุ์เป็นเรื่องยากมากเมื่อนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย

- สิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงส่วนมากมักลืมทำความเข้าใจ คือเค้าถูกจับมาจากแหล่งธรรมชาติ ดังนั้นอาการดุ กัด หวาดกลัว ก้าวร้าวในระยะแรกนั้นนับเป็นเรื่องธรรมดามากที่สามารถพบได้ แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นในภายหลังหากได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ

- การให้คนแปลกหน้า จับ อุ้ม มีความเสี่ยงต่อการโดนกัด ซึ่งสามารถสร้างความเจ็บปวดได้อย่างมาก แผลที่โดนกัด มักมีอาการบวมแดง อักเสบ หายช้า เนื่องจากแบคทรีเรียที่สะสมอยู่บริเวณขนในช่องปาก (ขนในปากทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกและเศษฝุ่นหรือเศษอาหารต่างๆ)

- แพร์รี่สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีของผู้เลี้ยงได้ แต่ถ้าผู้เลี้ยงอยากมีสัตว์เลี้ยงสักหนึ่งชนิด ที่คล้ายสุนัขหรือแมว แพร์รี่ด็อกอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด (..กว่าสุนัขและแมวจะนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ ต้องผ่านการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นสิบๆปี)

- การเลี้ยงแพร์รี่ด็อกเป็นความท้าทายอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้เลี้ยงต้องมีความอดทนและพยายามเข้าใจในธรรมชาติของเค้าด้วย โดยแต่ละตัวมีลักษณะนิสัยเฉพาะที่แตกต่างกัน โดยพัฒนาการของแพร์รี่ด็อกนั้นจะเท่ากับเด็กเพียง 2 ขวบ และจะไม่โตไปกว่านี้

ดังนั้นลองประเมิณความสามารถของผู้เลี้ยงถึงการต้องเลี้ยงเด็กอายุ 2 ขวบที่มีความต้องการมากกว่าเด็ก 2 ขวบทั่วๆไป ไปนานอีก 10 ปี..

- แพร์รี่ด็อก(ส่วนมาก) จะมี “ประตูเวลา” กล่าวคือ เมื่ออายุ 2 ขวบแล้วจะปิดกั้นความรู้สึกจากคนแปลกหน้า เขาจะยอมรับ รักและผูกพันเฉพาะผู้เลี้ยงหรือคนในครอบครัวเท่านั้น อาจจะหวงบ้านมากขึ้น กับคนอื่นที่ไม่คุ้นเคย ถ้าไม่กัด หรือไม่แสดงอาการก้าวร้าว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรักหรือเชื่อง เขาจะปกป้องคนในครอบครัว

ดังนั้นอายุของแพร์รี่ด็อกที่จะนำมาเลี้ยง ไม่ควรเกินไปกว่า 2 ปี(เป็นช่วงอายุโดยประมาณ)
..ในทางกลับกัน หากผู้เลี้ยงมีแพร์รี่ด็อกอายุ 2 ปีขึ้นไป และกำลังต้องการหาบ้านใหม่.. มันจะเป็นเรื่องเศร้าแค่ไหน เพราะเขาได้ตั้งใจแล้วว่าจะรักและปกป้องคุณไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่..

..ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลี้ยงโปรดคำนึงถึงด้วยว่า “แพร์ด็อกต้องการครอบครัวที่พร้อมจะรักและผูกพันในระยะยาว”

- แพร์รี่ด็อกเป็นสัตว์สัตว์สังคมอย่างมาก การนำมาเลี้ยง ควรเลี้ยงมากกว่า 1 ตัว และแนะนำให้เลี้ยงเพศเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น